วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เจ้าหญิง ซินเดอร์เรลล่า 




เนื้อเรื่องย่อ 



ซินเดอเรลล่าเดิมมีชื่อว่า เอลล่า (Ella) เป็นบุตรสาวของเศรษฐีผู้มั่งมี มารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก เป็นเหตุให้บิดาของเอลล่าจำใจแต่งงานใหม่กับมาดามผู้หนึ่งซึ่งเป็นหม้ายและมีลูกสาวติดมาสองคนเพราะอยากให้เอลล่ามีแม่ ไม่นานนักหลังจากนั้น เศรษฐีผู้เป็นบิดาก็เสียชีวิต ทำให้ธาตุแท้ของแม่เลี้ยงปรากฏขึ้น นางกับลูกสาวใช้งานเอลล่าราวกับเป็นสาวใช้ และใช้จ่ายทรัพย์ที่เป็นของเอลล่าอย่างฟุ่มเฟือย ที่ร้ายกว่านั้น ทั้งสามยังเปลี่ยนชื่อของเอลล่า เป็น ซินเดอเรลล่า ที่แปลว่า สาวน้อยในเถ้าถ่าน เพราะพวกนางใช้งานเอลล่าจนเสื้อผ้าขาดปุปะมอมแมมไปทั้งตัวนั่นเอง
ซินเดอเรลล่ายอมทนลำบากทำงานเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง มีจดหมายเรียนเชิญหญิงสาวทั่วอาณาจักรให้มาที่พระราชวังเพื่อร่วมงานเต้นรำ แต่ความหมายที่แท้จริงก็คือ พระราชา ต้องการหาคู่ครองให้กับเจ้าชายซึ่งเป็นพระโอรสองค์เดียว จึงใช้งานเต้นรำบังหน้า เมื่อรู้ข่าว ลูกสาวทั้งสองต่างพากันดีใจที่บางทีตนอาจมีโอกาสได้เต้นรำและได้แต่งงานกับเจ้าชายก็เป็นไปได้ เช่นกันกับซินเดอเรลล่า เพราะเธอใฝ่ฝันมาตลอดเวลาว่าจะได้เต้นรำในฟลอร์ที่งดงามและเป็นอิสระจากงานบ้านอันล้นมือเหล่านี้ แต่แน่นอน เมื่อเด็กสาวขอไป แม่เลี้ยงใจร้ายจึงกลั่นแกล้งต่างๆ นานาจนซินเดอเรลล่าไม่มีชุดใส่ไปงานเต้นรำ
ซินเดอเรลล่าเสียใจมาก จึงหนีไปร้องไห้อยู่คนเดียว ทันใดนั้นนางฟ้าแม่ทูนหัวของซินเดอเรลล่าก็ปรากฏตัวขึ้นและบันดาลชุดที่สวยงามที่สุดให้ซินเดอเรลลา พร้อมกับบอกให้เด็กสาวไปงานเต้นรำ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องกลับมาก่อนเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเวทมนตร์จะเสื่อมลงไปในทันที
ซินเดอเรลล่าได้ทำตามความฝัน แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ คู่เต้นรำที่เธอก็ไม่ทราบว่าเป็นใครนั้นคือเจ้าชายนั่นเอง ทั้งสองตกหลุมรักกันทั้งที่ยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่าย แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ซินเดอเรลล่าก็รีบหนีไปโดยลืมรองเท้าแก้วเอาไว้ เจ้าชายเก็บรองเท้าไว้ได้จึงประกาศว่าจะทรงแต่งงานกับหญิงสาวที่สวมรองเท้าแก้วนี้ได้เท่านั้น
เสนาบดีได้นำรองเท้าแก้วไปตามบ้านต่างๆ เพื่อให้หญิงสาวทั่วอาณาจักรได้ลอง จนมาถึงบ้านแม่เลี้ยง เมื่อลูกสาวทั้งสองลองครบแล้ว นางก็โกหกว่าไม่มีหญิงสาวในบ้านอีก พร้อมทำลายรองเท้าแก้วจนแตกละเอียด ทุกคนต่างหมดหวังว่าจะไม่สามารถหาหญิงปริศนาของเจ้าชายพบ แต่สุดท้าย ซินเดอเรลล่าก็หยิบรองเท้าแก้วอีกข้างที่เก็บไว้ขึ้นมาและสวมให้กับเหล่าเสนาได้ดู ทำให้ซินเดอเรลล่าได้แต่งงานกับเจ้าชาย และมีความสุขตราบนานเท่านาน
(ข้อคิดในนิทาน: นารีมีรูปเป็นทรัพย์ แต่ความเมตตากรุณาเป็นสมบัติอันประมาณค่ามิได้ หากปราศจากความเมตตา ย่อมไม่มีสิ่งใดเป็นไปได้ ผู้มีความเมตตาย่อมสามารถทำได้ทุกสิ่ง)[8]


........................................................................................
เจ้าหญิง สโนไวน์

เนื้อเรื่องย่อ

กาลครั้งหนึ่งในดินแดนสุดมหัศจรรย์ ยังมีองค์หญิงน้อยแสนงามผู้มีผมดำดุจไม้มะเกลือ ริมฝีปากแดงดั่งกุหลาบและมีผิวขาวผ่องดังหิมะ เธอคือสโนไวท์ ผู้ที่รู้จักเธอล้วนรักเธอเว้นแต่ราชินีแม่เลี้ยงใจร้ายผู้ริษยาในความงามของเธอสโนไวท์อาศัยอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ที่มีน้ำตกเจ็ดชั้นและภูเขาอัญมณีเจ็ดลูกที่ภายในมีอัญมณีเลอค่ามากมาย ภูเขาที่อยู่ห่างไกลที่สุดเป็นที่ตั้งของปราสาทที่สโนไวท์เติบโตมาภายใต้อำนาจของราชินี

ถึงแม้ว่าความปรารถนาที่จะมีรักแสนหวานของเธอจะดูเป็นไปไม่ได้แต่ความรักก็สามารถหาทางของมันได้เสมอแม้ว่าเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งก็ยังไม่สามารถห้ามให้เจ้าชายหลงรักสโนไวท์ได้
ราชินีเกรงว่าสักวันสโนไวท์จะเติบโตและงดงามกว่าพระนาง ด้วยเหตุนี้พระนางจึงใช้ให้สโนไวท์ทำงานหนักดั่งทาส และเมื่อกระจกวิเศษเผยแก่ราชินีว่าสโนไวท์งดงามกว่าพระนาง ชีวิตของสโนไวท์ก็ตกอยู่ในอันตราย จนกระทั่งเธอได้พบเพื่อนตัวเล็กๆทั้งเจ็ดคนที่ช่วยเหลือเธอไว้
สโนไวท์วิ่งหนีใปในป่ามืด ดูเหมือนว่าต้นไม้เกิดมีชีวิตและพยายามจะฉุดรั้งสโนไวท์เอาไว้ เธอเหนื่อยล่าและหวาดกลัวจนกระทั่งหมดแรงและล้มลงกลางป่า แล้วสิ่งที่ทำให้เธอมีชีวิตชีวาอีกครั้งก็คือเสียงเพลงและรอยยิ้ม
ระหว่างที่สโนไวท์กำลังทำกูซเบอร์รี่พายของโปรดของเหล่าคนแคระ แม่ค้าเร่ก็เข้ามาคะยั้นคะยอเธอให้ทำแอปเปิ้ลพายด้วยลูกแอปเปิ้ลสีแดงสดในมือนาง และเมื่อสโนไวท์อธิษฐานต่อแอปเปิ้ลเธอกัดมันและสลบลงไปนอนกองกับพื้นทันที!
สโนไวท์ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับเห็นเจ้าชายรูปงามและเหล่าคนแคระรายล้อม เจ้าชายพาเธอขี่ม้าไปที่ปราสาทของเขาและทั้งคู่ก็อย่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดกาล




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น